Blog - True Incube

เจาะลึก TikTok แพลตฟอร์มมาแรงอันดับต้นของโลก

#TrueIncube #Startup #Startups #TikTok #ByteDance

จากบทความตอนที่แล้ว ที่พูดถึงปัจจัยที่ทำให้สตาร์ทอัพล้มเหลว และปัจจัยที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ รวมไปถึงตัวอย่างสตาร์ทอัพที่ทรงอิทธิพลระดับโลก ซึ่งวันนี้เราจะมาเจาะลึกความสำเร็จของบริษัทยูนิคอร์นกัน นั่นก็คือ ByteDance หรือ ‘TikTok’ แพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้นที่มาแรงที่สุดในขณะนี้นั่นเอง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้คน และได้สร้างกระแสความนิยม และปรากฏการณ์ไปทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้ TikTok ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่สนับสนุนให้เหล่าครีเอเตอร์ร่วมสร้างสรรค์ความบันเทิง และเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมเท่านั้น แต่ TikTok ยังเป็นแหล่งรวมคอนเทนต์ที่หลากหลาย ที่ได้สร้างแรงบันดาลใจและเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากมาย โดยปัจจุบัน TikTok มียอดดาวน์โหลดกว่า 1,000 ล้านครั้งใน 150 ประเทศทั่วโลก ส่วนประเทศไทยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2018 โดยปีที่ผ่านมาผู้ใช้งานเติบโตถึง 100% ถือเป็น Top 3 ของประเทศที่มีการเติบโตสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ที่เราจะมาเจาะลึกกันว่า เพราะเหตุใดที่ทำให้ TikTok จึงได้ชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จทั่วโลกในเวลาอันสั้น

เป็นที่นิยมเพราะเป็นพื้นที่แจ้งเกิด ‘Influencer’

ปัจจัยที่ทำให้เป็นแพลตฟอร์มมาแรงในยุคนี้ เพราะเป็นพื้นที่แจ้งเกิดสำหรับคนดัง หรือเหล่า ‘Influencer’ ทั้งหลาย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คือ ยุคที่ Influencer Marketing หรือการทำการตลาดผ่านผู้ทรงอิทธิพล ด้านความคิด ได้รับความนิยมและมาแรงมากที่สุด ควบคู่กับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียมากมาย และในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เราก็คงพอจะได้ยินกันแล้วว่า นี่คือยุค ของ Micro Influencer หรือ Nano Influencer หรือคนธรรมดาอย่างเราๆ ที่สามารถก้าวไปสู่สังคมได้ ซึ่งเหตุผลที่ ‘TikTok’ เป็นพื้นที่แจ้งเกิดสำหรับเหล่าคนดัง นั่นก็คือ 1. เพราะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับคอนเทนท์วิดีโอสั้นที่มาแรงที่สุด ซึ่งบอกได้เลยว่า นี่คือยุคของ Short Video ซึ่ง TikTok ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองการสร้างสรรค์ Short Video แบบไม่มีข้อจำกัด ด้วยฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายและลูกเล่นมากมายที่คาดไม่ถึง ให้คนที่ไม่ต้องมีทักษะในการถ่ายหรือตัดต่อวิดีโอก็สามารถสร้างคอนเทนท์วิดีโอเจ๋งๆ บน TikTok ได้อย่างง่ายดาย มีเพลงประกอบที่มีให้เลือกใช้มากมาย ทั้งเพลงฮิต เพลงในกระแส ไปจนถึงซาวนด์สนุกๆ ให้นำไปใช้ แบบไม่มีข้อจำกัด 2. เพราะ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้าง สร้างความเท่าเทียม ในการเข้าถึงคนดู 3. เพราะ TikTok ใช้ Machine Learning ในการวิเคราะห์คอนเทนท์วิดีโอ เหล่านั้นและส่งต่อไปถึงคนที่ชอบผ่านการจับความสนใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของความสำเร็จ และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ใครที่ได้เล่นจะถึงขั้นเสพติด เพราะเบื้องหลังแล้ว TikTok ใช้ Machine Learning ในการวิเคราะห์วิดีโอว่าเป็นคอนเทนท์อะไร ตรงตามความสนใจของใคร และจะนำคอนเทนท์เหล่านั้นไปแสดงในเมนู “สำหรับคุณ”

ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น

สำหรับผู้ใช้งาน TikTok ส่วนใหญ่ที่ถือเป็น Main Target Group (กลุ่มเป้าหมายหลัก) ของแอปพลิเคชั่นนี้ก็คือ กลุ่มคนที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 18-24 ปี แต่ถ้าเรทอายุเฉลี่ยของผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นนี้ ก็จะอยู่ตั้งแต่ 13 - 34 ปีเลยทีเดียว ซึ่ง TikTok มีผู้ใช้งานจำนวนมากจากทั่วโลก แต่ผลสรุปช่วงอายุที่ใช้งานมากที่สุด ก็คือกลุ่ม GenZ (16-24 ปี) หรือวัยรุ่นนั่นเอง เช่นเดียวกันกับประเทศไทย ที่ Active User ที่มากที่สุดก็เป็น Gen Z เช่นกัน โดยแบ่งเป็น เพศหญิง 75% และเพศชาย 25% ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันก็มักจะชอบติดตามคอนเทนต์ที่มีความสั้น ไม่ยาว สนุกสนาน ไม่เครียด และเป็นวีดีโอ ทำให้ TikTok เข้าสเปคของพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน เลยส่งให้ TikTok กลายเป็นแอปพลิเคชั่นสุดฮิตของใครหลายๆ คน โดย TikTok ได้รับความนิยมระดับโลก ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งาน (Monthly Active User) ทะลุ 1,000 ล้านคนทั่วโลก และเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนรวมถึงในไทย มียอดผู้ใช้เติบโตกว่า 85% ต่อปี รวมยอดผู้ใช้งาน 240 ล้านต่อเดือน ขณะที่ประเทศต้นกำเนิดของแอป TikTok อย่าง จีน มีการใช้แอปแยกต่างหาก ในชื่อ Douyin (เตาอิน) ซึ่งมีรูปแบบการใช้งานเหมือนกับแอป TikTok ที่เปิดให้ใช้ทั่วโลก แต่จำกัดใช้ได้เฉพาะในประเทศจีนเองเท่านั้น

เป็นพื้นที่สำหรับการทำตลาดดิจิทัลที่มาแรงตอบโจทย์ธุรกิจตั้งแต่สร้างการรับรู้สู่การสร้างยอดขาย

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ TikTok เติบโต นั่นก็คือ การเป็นพื้นที่สำหรับการทำตลาดดิจิทัลที่มาแรง และตอบโจทย์ธุรกิจตั้งแต่สร้างการรับรู้สู่การสร้างยอดขาย ทำให้ธุรกิจทั่วโลกหันมาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา TikTok ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการตลาดดิจิทัล ด้วยการเปิดตัว TikTok For Business แพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัลที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการของนักการตลาดและผู้ประกอบการธุรกิจด้วยโซลูชั่นการตลาดที่ครบวงจร ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ (Awareness) การมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค (Engagement) พร้อมต่อยอดไปถึงการพิจารณาเลือกซื้อ (Consideration) สู่การตัดสินใจซื้อ (Conversion) แบบที่เรียกว่า Full-Funnel Marketing Solution อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Self-Serve Solution หรือ โซลูชั่นแบบบริการตนเอง เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาสามารถบริหารจัดการโฆษณาได้ด้วยตนเองอย่างง่ายดาย จากการเปิดตัวนี้ก็ได้สร้างปรากฏการณ์มากมายทั้งการเพิ่มขึ้นของคอนเทนท์โฆษณาในรูปแบบวิดีโอสั้นสุดสร้างสรรค์รวมถึง Challenge Marketing, Hashtag Marketing ที่น่าสนใจจากแบรนด์ดังมากมาย โดยเฉพาะวงการแฟชั่นในปีที่ผ่านมา ได้เห็นแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก อย่าง Louis Vuitton, Prada และ Gucci และ อื่นๆ อีกมากมาย ต่างตบเท้าเข้ามาเปิด Account บนแพลตฟอร์ม TikTok และได้สร้างสรรค์คอนเทนท์ที่ฉีกกฏแบรนด์ได้อย่างน่าจดจำ

3 กลยุทธ์สร้างการเติบโต

เพราะ TikTok มีกลยุทธ์ที่พร้อมยกระดับการสร้างการรับรู้จากแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิงสู่ศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ จึงทำให้ประสบความสำเร็จ และไม่หยุดในการเติบโต ซึ่ง 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1. กลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ : การสร้างความหลากหลายของคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์ความสนใจที่หลากหลายของผู้ใช้ในแต่ละกลุ่ม เช่น การพาร์ทเนอร์กับกลุ่มพันธมิตรในอุตสาหกรรมบันเทิงชั้นนำและเหล่าดาราศิลปินในการสร้างสรรค์คอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟในหลากหลายรูปแบบ เช่น TikTok Stage with BLACKPINK และการสร้างคอนเทนต์เจาะกลุ่มเซ็กเมนต์ที่มาแรง เช่น กลุ่มแฟนคลับซีรีย์ Y, กลุ่มผู้ชายที่ชื่นชอบคอนเทนต์เทคโนโลยีและกีฬา หรือกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการดูดวง เป็นต้น โดยคอนเทนต์ 3 อันดับแรกที่เป็นตัวช่วยดัน Tiktok ให้เติบโตกว่า 100 % ได้แก่ 1. การท่องเที่ยว 2. แฟชั่น 3. บริการทางการเงิน 2. กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์หรือการพัฒนาแพลตฟอร์ม : การเปิดฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์บนแพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้ เช่น TikTok LIVE ที่เปิดให้ผู้ใช้ที่มียอดผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป และมีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ livestreaming ได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม 3. กลยุทธ์ด้านครีเอเตอร์ : TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์มืออาชีพได้ ผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ และการเข้าร่วมในแคมเปญต่างๆ เพื่อเชิญชวนให้ผู้มีความรู้หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เข้ามาเป็นครีเอเตอร์ร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์

ทั้งหมดนี้คือปัจจัยที่ทำให้แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอย่าง TikTok ประสบความสำเร็จ และเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนความนิยมที่เกิดขึ้นและกระแสตอบรับจากผู้คนให้เห็นว่า TikTok ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันของผู้คน เพื่อสร้างความบันเทิงควบคู่ไปกับสาระความรู้ที่สร้างแรงบันดาลใจและมอบความสุขให้กับผู้คน ควรจับตามองกันต่อไปว่า ในอนาคต ByteDance จะพัฒนา TikTok ให้เติบโตจนน่าทึ่งขนาดไหน จะมีฟีเจอร์ ลูกเล่นอะไร ที่แปลกใหม่ออกมาให้เราได้เล่นกัน และจะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่นำ Facebook ได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาดในการติดตามต่อไป ( เรียบเรียงโดย ศุภวรรณ พุ่มพวง : Internship of True Incube ), ( ติดตามความเคลื่อนไหวของ True Incube ได้ที่ :https://www.trueincube.com/programs/index )